Thursday, 21 November 2024

รายได้พื้นฐานถ้วนหน้า สามารถนำงบมาจากที่ใด

จากเว็บไซท์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) การผลิตธนบัตรออกใช้จำเป็นต้องเป็นไปตาม

พระราชบัญญัติเงินตรา พุทธศักราช ๒๕๐๑ มาตรา ๑๖ กำหนดไว้ว่า การนำธนบัตรออกใช้จะทำได้เพียง 2 กรณี เท่านั้น คือ

  1. แลกเปลี่ยนทันทีกับธนบัตรที่ออกใช้ไปก่อนแล้วถอนคืนจากการออกใช้ในมูลค่าเท่ากัน
  2. แลกเปลี่ยนทันทีกับสินทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมีค่าเท่ากัน และระบุไว้ในมาตรา ๓๐ ซึ่งจะต้องรับขึ้นบัญชีทุนสำรองเงินตรา

ซึ่ง

พระราชบัญญัติเงินตรา พุทธศักราช ๒๕๐๑ มาตรา ๓๐ กำหนดสิ่งอันชอบด้วยกฎหมายที่ประกอบขึ้นเป็นทุนสำรองเงินตรา ดังนี้

1. ทองคำ
2. เงินตราต่างประเทศอันเป็นเงินตราที่พึงเปลี่ยนได้ หรือเงินตราต่างประเทศอื่นใดที่กำหนดโดยกฎกระทรวง ทั้งนี้ ต้องเป็นรูปเงินฝากในธนาคารนอกราชอาณาจักร หรือในสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
3. หลักทรัพย์ต่างประเทศที่จะมีการชำระหนี้เป็นเงินตราต่างประเทศที่ระบุไว้ในข้อ 2.
4. ทองคำ สินทรัพย์ต่างประเทศ และสิทธิพิเศษถอนเงิน ทั้งนี้ ที่นำส่งสมทบทุนกองทุนการเงิน
5. ใบสำคัญสิทธิซื้อส่วนสำรอง
6. ใบสำคัญสิทธิพิเศษถอนเงิน
7. หลักทรัพย์รัฐบาลไทยที่จะมีการชำระหนี้เป็นเงินตราต่างประเทศที่ระบุไว้ในข้อ 2. หรือเป็นบาท
8. ตั๋วเงินในประเทศที่ธนาคารแห่งประเทศไทยพึงซื้อหรือรับช่วงซื้อลดได้ แต่ต้องมีค่ารวมกันไม่เกินร้อยละ 20 ของจำนวนธนบัตรออกใช้

สินทรัพย์ตาม ข้อ 1 2 3 4 5 และ 6 นั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องดำรงไว้ให้มีค่ารวมกันทั้งสิ้น ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของมูลค่าธนบัตรออกใช้ 

สถิติการค้าระหว่างประเทศของไทย ปี 2535 – 2563

ปีพ.ศ. การค้า  ส่งออก  นำเข้า  ดุลการค้า 
25351,857,888.03824,643.291,033,244.74-208,601.45
25362,111,709.02940,862.591,170,846.43-229,983.84
25372,506,862.021,137,601.651,369,260.37-231,658.73
25383,169,901.391,406,310.121,763,591.27-357,281.16
25393,243,864.511,411,039.331,832,825.18-421,785.84
25403,730,945.111,806,681.981,924,263.13-117,581.15
25414,022,155.802,248,089.441,774,066.37474,023.07
25424,121,639.322,214,248.691,907,390.62306,858.07
25435,262,197.862,768,064.762,494,133.10273,931.66
25445,633,665.522,884,703.892,748,961.63135,742.26
25455,698,833.522,923,941.392,774,892.14149,049.25
25466,464,405.993,325,630.123,138,775.87186,854.25
25477,674,756.113,873,689.563,801,066.5572,623.01
25489,192,715.634,438,691.034,754,024.60-315,333.58
25499,880,294.784,937,372.244,942,922.54-5,550.30
255010,172,305.635,302,119.224,870,186.41431,932.81
255111,813,853.635,851,371.145,962,482.49-111,111.34
25529,796,578.535,194,596.734,601,981.80592,614.94
255311,969,926.796,113,335.525,856,591.27256,744.25
255413,690,717.596,707,989.466,982,728.13-274,738.67
255514,863,885.197,077,762.157,786,123.04-708,360.89
255614,567,177.006,909,543.907,657,633.09-748,089.19
255714,714,993.807,311,089.007,403,904.80-92,815.81
255814,131,801.217,225,722.806,906,078.41319,644.39
255914,438,890.777,550,704.076,888,186.70662,517.37
256015,593,383.598,006,265.187,587,118.41419,146.76
256116,172,338.668,108,299.778,064,038.9044,260.87
256215,054,049.377,628,400.397,425,648.98202,751.41
256313,659,835.047,183,567.616,476,267.43707,300.18
ผลรวม265,211,571.41133,312,337.01131,899,234.4042341,413,102.61

จะเห็นได้ว่า เมื่อประเทศทำการค้าได้ดุลการค้า ประเทศไทยย่อมมีเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเงินคราต่างประเทศเป็นสินทรัพย์ข้อ 2 ตามมาตรา 30

ประชาชนผู้ทำการค้าได้เงินตราต่างประเทศมาต้องนำเงินตราต่างประเทศนั้นไปแลกกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อเปลี่ยนสกุลเงินเป็นเงินบาท เพื่อใช้จ่ายในประเทศ ดังนั้นธนาคารแห่งประเทศไทยย่อมมีเงินตราต่างประเทศเก็บไว้เท่าดุลการค้าที่เป็นบวกในแต่ละปี

ซึ่งตามมาตรา 16 แล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถนำมาผลิตธนบัตรและใช้เป็นแหล่งรายได้ของรายได้พื้นฐานถ้วนหน้าได้ทันที

จากปี 2563 ประเทศไทยมีดุลการค้ารวมเป็นบวก คือ 707,300.18 ล้านบาท ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถผลิตธนบัตรได้ถึง (707,300.18 x 2)/3 = 471,533.45 ล้านบาท

เมื่อนำไปแจกประชาชน 70 ล้านคนจะได้เงินคนละ 471,533.45/(70×12)= 561 บาทต่อเดือน

ที่มา

https://www.bot.or.th/Thai/Banknotes/BMD/Pages/manage_note.aspx

http://tradereport.moc.go.th/Report/Default.aspx?Report=TradeThBalanceYearly